Skip to content
Home » เส้นเวลา

เส้นเวลา

หนังสือที่มีเอกลักษณ์ที่สุด: ข้อความของมันคืออะไร?

นักเขียนที่ยอดเยี่ยมและมีความคิดสร้างสรรค์ได้เขียนหนังสือที่ดีเยี่ยมหลายเล่มตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา หนังสือประเภทต่างๆ ที่เขียนขึ้นในหลายภาษาจากวัฒนธรรมที่หลากหลายได้เพิ่มพูนความรู้ ข้อมูล และสร้างความบันเทิงแก่มนุษยชาติมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งคัมภีร์ไบเบิลมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในบรรดาหนังสือดีๆ เหล่านี้ และมันมีความเป็นเอกลักษณ์ในหลายๆด้านอีกด้วย ชื่อของมันคือ หนังสือ จริงๆแล้วพระคัมภีร์หมายถึง ‘หนังสือ’ คัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกบรรจุลงในรูปแบบหนังสือโดยแบ่งเป็นหน้าๆเหมือนในปัจจุบัน ก่อนหน้านั้นผู้คนเก็บ ‘หนังสือ’ ไว้เป็นม้วน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากหนังสือม้วนเป็นหน้าหนังสือที่ผูกไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบที่กะทัดรัดและทนทาน สิ่งนี้นำไปสู่การรู้หนังสือที่เพิ่มขึ้นเมื่อสังคมยอมรับรูปแบบของหน้าหนังสือที่ผูกไว้รวมกันนี้ หนังสือหลายๆเล่มและผู้แต่งทั้งหลาย พระคัมภีร์เป็นชุดของหนังสือ 69 เล่มที่เขียนโดยนักเขียนหลายสิบคน ด้วยเหตุนี้ มันอาจจะเหมาะสมกว่าที่จะคิดว่าพระคัมภีร์เป็นห้องสมุดมากกว่าหนังสือเล่มเดียว ผู้เขียนเหล่านี้มาจากหลากหลายประเทศ ภาษา และตำแหน่งทางสังคมที่แตกต่างกัน ทั้งนายกรัฐมนตรี กษัตริย์ และข้าราชการระดับสูงไปจนถึงคนเลี้ยงแกะ อาจารย์ และชาวประมง รวมถึงยังประกอบด้วยภูมิหลังบางส่วนของผู้เขียนอีกด้วย อย่างไรก็ตามหนังสือเหล่านี้ยังคงสร้างธีมที่เป็นหนึ่งเดียว และนั้นนั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก ลองเลือกหัวข้อที่เป็นข้อถกเถียงในวันนี้ดูสิ เช่น… Read More »หนังสือที่มีเอกลักษณ์ที่สุด: ข้อความของมันคืออะไร?

‘บุตรมนุษย์’ คืออะไร? ความขัดแย้งในการไต่สวนของพระเยซู

พระคัมภีร์ใช้หลายชื่อในการอ้างถึงพระเยซู ที่โดดเด่นที่สุดคือ‘พระคริสต์’แต่ก็ยังใช้ ‘ บุตรของพระเจ้า ‘ และ‘ลูกแกะของพระเจ้า ‘ เป็นประจำ อย่างไรก็ตามพระเยซูมักจะเรียกตัวเองว่าเป็น ‘บุตรมนุษย์’ สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรและทำไมเขาถึงใช้คำนี้? ในการไต่สวนของพระเยซูนั้น การเสียดสีของการใช้ ‘บุตรมนุษย์’ นั้นโดดเด่นจริงๆ ซึ่งเราสำรวจสิ่งนี้ได้ที่นี่ หลายคนค่อนข้างคุ้นเคยกับการไต่สวนของพระเยซู บางทีพวกเขาอาจเคยเห็นการพิจารณาคดีในภาพยนตร์หรืออ่านในเรื่องราวพระกิตติคุณเล่มหนึ่ง ทว่าการไต่สวนที่บันทึกพระวรสารนำมาซึ่งความขัดแย้งที่ลึกซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของวันที่ 6 ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ลูกาบันทึกรายละเอียดของการไต่สวนเพื่อเรา 66 ครั้นรุ่งเช้าคณะผู้ใหญ่ของประชาชน รวมทั้งพวกมหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติได้ประชุมร่วมกัน และพระเยซูถูกนำไปยังศาสนสภา[a] 67 เขาพูดว่า “ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ ก็จงบอกพวกเราเถิด” พระเยซูตอบว่า “ถ้าเราบอกท่าน ท่านก็จะไม่เชื่อเรา 68 และถ้าเราถามท่าน ท่านก็จะไม่ตอบเรา 69 แต่ว่าตั้งแต่นี้ไปบุตรมนุษย์จะนั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้มีอานุภาพ” 70 เขาทั้งปวงถามกันว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นบุตรของพระเจ้าหรือ” พระองค์ตอบว่า “ท่านพูดถูกต้องแล้วที่ว่าเราเป็น” 71 แล้วเขาทั้งหลายพูดว่า… Read More »‘บุตรมนุษย์’ คืออะไร? ความขัดแย้งในการไต่สวนของพระเยซู

สัญลักษณ์ของกิ่งก้านสาขา: เหมือนดั่งต้นโพธิ์ที่ยืนต้นนานแด่ทุกคน

ต้นโพธิ์ หรือต้นมะเดื่อ (หรือ Ficus Religiosa) เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ชาวพุทธเคารพนับถือมากที่สุด พระเจ้าสิทธัตถะตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาในแคว้นมคธ ประเทศอินเดีย พระเจ้าอโศกสาวกที่เคร่งศาสนาของพระพุทธเจ้าได้สร้างวัดมหาโพธิ์รอบต้นโพธิ์นั้น ดังนั้นสถานที่นี้จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางแสวงบุญที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ต้นโพธิ์ที่ปลูกไว้เรียกว่าต้นมหาโพธิ์  มรดกต้นมหาโพธิ์ ต้นมหาโพธิ์ที่กำลังเติบโตที่วัดมหาโพธิ์นั้นไม่ใช่ต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แต่เชื่อกันว่าเป็นต้นตระกูลโดยตรงจากต้นโพธิ์ต้นนั้น และยังมีการตัดกิ่งก้านต้นมหาโพธิ์ไปยังสถานที่อื่นอีกหลายแห่ง ซึ่งทำให้สถานที่เหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: การปักชำจากต้นพระศรีมหาโพธิหรือต้นโพธิ์พุทธคยายังถูกนำไปปลูกในแคลิฟอร์เนีย ฮาวาย เจนไน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ในความเป็นจริงแล้ว ชาวพุทธเถรวาทระบุรายชื่อพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่ตรัสรู้สำเร็จ แต่พระพุทธเจ้าองค์เหล่านี้ได้ปรากฏก่อนหน้าพระพุทธเจ้าสิทธัตถะ ตามธรรมเนียมแล้ว พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ภายใต้ต้นไม้ 22 ต้นที่แตกต่างกัน การฉลองวันอัฏฐมีบูชาเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้าองค์เหล่านี้ที่ตรัสรู้ วัดบางแห่งระลึกถึง Patan… Read More »สัญลักษณ์ของกิ่งก้านสาขา: เหมือนดั่งต้นโพธิ์ที่ยืนต้นนานแด่ทุกคน

‘พระคริสต์’ ของพระเยซูคริสต์มาจากไหน?

พระพุทธเจ้าโคตมะและพระเยซูคริสต์มักถูกเปรียบเทียบในฐานะผู้ก่อตั้งศาสนาโลกสองศาสนา พวกเขายังคล้ายกันในแง่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดบางประการ หลายคนคิดว่าคำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ เป็นส่วนหนึ่งของชื่อพระพุทธเจ้าโคตมะ อันที่จริงพระนามของพระองค์คือสิทธัตถะโคตมะ คำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ ที่เชื่อมโยงกับพระองค์นั้นเป็นชื่อที่มีความหมายว่า ‘ผู้ตื่นแล้ว’ เปรียบการตรัสรู้ของพระองค์เหมือนการตื่นจากการหลับใหล ในทำนองเดียวกัน ‘พระคริสต์’ ไม่ใช่นามสกุลของพระเยซู (มารดาและบิดาของเขาไม่มีชื่อโจเซฟและแมรี่คริสต์) แต่ ‘พระคริสต์’ เป็นชื่อที่มีความหมายว่า ‘ผู้ถูกเจิม’ ดังนั้น ชายสองคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาของโลกสองศาสนาเท่านั้น แต่พวกท่านทั้งสองยังมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดจนหลายคนคิดว่านี่คือนามของพวกท่านนั่นเอง แต่ในการรับตำแหน่งเหล่านี้ เราเห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพระเยซูแห่งนาซาเร็ธและพระเจ้าสิทธัตถะโคตมะ พระเจ้าสิทธัตถะโคตมะได้รับตำแหน่งจากสังฆะ (กลุ่มผู้ติดตาม) หลายศตวรรษหลังจากที่เขามีชีวิตอยู่ เมื่อคณะสงฆ์ของพระองค์ตระหนักในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการบรรลุการตรัสรู้ พวกเขาเรียกพระองค์ว่า ‘พระพุทธเจ้า ‘ อย่างไรก็ตาม ผู้ติดตามพระเยซูไม่ได้ตั้งฉายาให้พระองค์ว่า ‘พระคริสต์’ แล้ว… Read More »‘พระคริสต์’ ของพระเยซูคริสต์มาจากไหน?

เราได้รับข้อความศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เราอ่านทุกวันนี้ได้อย่างไร

พระคัมภีร์และพระไตรปิฎกหรือตะกร้าสามใบ มีส่วนที่เหมือนกันมาก ทั้งสองเป็นตำราโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งทั้งสองยังถูกเขียนด้วยภาษาที่ไม่ใช้ปกติในปัจจุบัน ดังนั้นหนังสือเหล่านี้จึงจำเป็นที่จะต้องมีการแปล หนังสือพระคัมภีร์เขียนเป็นภาษากรีกและฮีบรู แต่พระไตรปิฎกเดิมเป็นภาษาบาลีและสันสกฤต นอกจากนี้ เนื่องจากมีการเขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้ว จึงต้องใช้ระเบียบวินัยของการวิจารณ์ข้อความเพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อความ ทีนี้เราจะพิจารณาประเด็นเหล่านี้ที่หล่อหลอมทั้งพระคัมภีร์และพระไตรปิฎก (รวมถึงพุทธวจนะ ด้วย ) ข้อความวิจารณ์ Textual Criticism หรือการวิจารย์ตัวบท คือระเบียบวินัยทางวิชาการที่กำหนดว่าข้อความโบราณมีการเปลี่ยนแปลงจากองค์ประกอบดั้งเดิมจนถึงปัจจุบันหรือไม่ เนื่องจากเป็นวินัยทางวิชาการจึงใช้กับงานเขียนโบราณจากภาษาใดก็ได้  ช่วงเวลา แผนผังนี้แสดงตัวอย่างเอกสารสมมุติที่เขียนขึ้นเมื่อ 500 ปีก่อนคริสตศักราช ข้อความเดิมอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นก่อนที่มันจะสลายตัว สูญหาย หรือถูกทำลาย จะต้องทำสำเนาต้นฉบับ (MSS) ของมันเสียก่อน (สำเนาที่ 1) กลุ่มคนมืออาชีพที่เรียกว่าอาลักษณ์ได้ทำการคัดลอก เมื่อหลายปีล่วงไปพวกอาลักษณ์จะทำการคัดลอก (สำเนาที่ 2… Read More »เราได้รับข้อความศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เราอ่านทุกวันนี้ได้อย่างไร

อะไรคือประวัติศาสตร์ของชาวยิว?

ชาวยิวมีอดีตอันยาวนาน และมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์เอเชียเป็นพิเศษ ลองพิจรนาหนึ่งตัวอย่างคือ คาร์ล มาร์กซ์ ผู้ให้กำเนิดและส่งเสริมลัทธิคอมมิวนิสต์ในฐานะทฤษฎีเศรษฐกิจและการเมืองในยุโรปเป็นชาวยิว ความคิดของเขาแพร่กระจายจากยุโรปไปยังเอเชีย ซึ่งได้เห็นการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหมาในจีน จากนั้นการยึดครองเกาหลีเหนือและเวียดนามของคอมมิวนิสต์ก็แผ่ขยายออกไปจากจีน เขมรแดงที่นำโดยพล พต ได้นำแนวคิดมาร์กซิสต์มาใช้ในกัมพูชาเช่นกัน สิ่งนี้นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ในประเทศนั้นในปี 1970 ทุกคนในเอเชียอาจได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติของคอมมิวนิสต์และความขัดแย้งที่เป็นผลมาจากการปฏิวัติจนถึงทุกวันนี้ ชาวยิวยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเอเชียในอดีต พระสงฆ์กลุ่มแรกใช้ภาษาบาลีและสันสกฤตในการเขียนพระสูตรที่เก่าแก่ที่สุด ภาษาบาลีและสันสกฤตมาจากอักษรพรหมมี ซึ่งนักวิชาการเสนอว่ามาจากชาวยิวในเอเชียเมื่อเกือบ 2,700 ปีที่แล้ว ชาวยิวจึงส่งผลกระทบต่อการก่อตัวของงานเขียนทางพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ชาวยิวมีอิทธิพลต่อเอเชียอย่างที่ชนกลุ่มน้อยอื่นไม่มี ที่นี่เราตรวจสอบประวัติศาสตร์ของชาวยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเอเชีย เราสำรวจว่าเหตุใดชาวยิวจึงมีอิทธิพลอย่างยาวนานและยั่งยืนต่อประวัติศาสตร์เอเชีย มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาวยิวมากกว่าของชาติอื่น เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อสรุปประวัติของพวกเขาด้วยไทม์ไลน์ อับราฮัม: ครอบครัวชาวยิวได้เริ่มต้นขึ้น เส้นเวลาเริ่มต้นด้วยอับราฮัม พระเจ้าผู้สร้างสัญญาว่าพระเจ้าจะอวยพรทุกชาติโดยผ่านพระองค์ จากนั้นพระเจ้าทรงทดสอบเขาด้วยในการเสียสละแบบสัญลักษณ์ของอิสอัคบุตรชายของเขา นี่เป็นสัญญาณที่ชี้ไปที่พระเยซูโดยการทำเครื่องหมายตำแหน่งที่เครื่องบูชาของพระองค์ในอนาคต พระเจ้าจึงตั้งชื่อบุตรของอิสอัคว่าอิสราเอล เส้นเวลายังคงเป็นสีเขียวเมื่อลูกหลานของอิสราเอลเป็นทาสในอียิปต์ ช่วงเวลานี้เริ่มด้วยโยเซฟ บุตรของอิสราเอล (ลำดับวงศ์ตระกูลคือ: อับราฮัม -> อิสอัค -> อิสราเอล(หรือเป็นที่รู้จักว่ายาโคบ)… Read More »อะไรคือประวัติศาสตร์ของชาวยิว?

เผชิญหน้ากับพญานาคผู้ยิ่งใหญ่: ประวัติศาสตร์กำลังเริ่มต้นแต่มุ่งสู่จุดจบ

พญานาคฝังลึกอยู่ในตำนานพื้นบ้าน ศิลปะ และความเชื่อของชาวเอเชีย เปรียบได้กับมังกรซึ่งมีลักษณะหลายอย่างคล้ายคลึงกันกับสัตว์เลื้อยคลานในตำนาน ทั้งตำนานเอเชียและคัมภีร์ฮีบรูจัดกลุ่มพญานาคและมังกรไว้ด้วยกัน พระคัมภีร์ภาษาฮีบรูยังบันทึกการเผชิญหน้าระหว่างงู/มังกรกับพระเจ้าผู้สร้างในตอนแรกเริ่มของประวัติศาสตร์มนุษย์อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์และชีวิตของเราในปัจจุบัน พญานาคและมังกรที่ถูกวาดภาพไว้ในเอเชีย ประเทศต่างๆ ในเอเชียแสดงภาพพญานาคแตกต่างกันไป แต่มักถูกบรรยายและพรรณนาว่าทรงพลังและฉลาด พญานาคมีความเกี่ยวข้องกับน้ำและเชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในถ้ำหรือโพรงใต้ดิน ด้วยบทบาทนี้พวกเขาจึงเชื่อมต่อกับยมโลก (ปาตาลา หรือ นาคโลกา) ตำนานทางพุทธศาสนามอบพญานาคให้กับนาคโลกะเพราะศากรา  ( สันสกฤต : शक्र ;  บาลี : सक्क ) ผู้ปกครองแห่งสวรรค์ดาวดึงส์เอาชนะพวกมันได้ ในประเพณีทางพุทธศาสนา มุจลินท์เป็นนาคที่สำคัญที่สุด ครั้งหนึ่งนาคตนนี้ได้ปกป้องพระพุทธเจ้าจากลมพายุในขณะที่พระพุทธเจ้านั่งสมาธิ ศิลปะเอเชียวาดภาพพญานาคเป็นงู มักมีหลายหัว หรือเป็นครึ่งคนครึ่งงู มังกรก็มีความเกี่ยวข้องกับน้ำเช่นเดียวกับพญานาค ศิลปะเอเชียโดยทั่วไปจะพรรณนาถึงมังกรที่มีลำตัวยาว โค้งงอ คล้ายงู มีสี่ขา มังกรยังเป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความแข็งแกร่ง และความโชคดีสำหรับผู้ที่คู่ควรกับมัน การค้นพบของรูปปั้นมังกรหย่างเฉาพิสูจน์ว่ามังกรในวัฒนธรรมเอเชียมีอายุย้อนกลับไปหลายพันปีทีเดียว… Read More »เผชิญหน้ากับพญานาคผู้ยิ่งใหญ่: ประวัติศาสตร์กำลังเริ่มต้นแต่มุ่งสู่จุดจบ

ตอนนี้ที่หลงผิด… เหมือนกับออร์คแห่งมิดเดิลเอิร์ธ

เราเห็นว่าพระคัมภีร์บรรยาย ถึงตัวเราและผู้อื่นอย่างไร – ซึ่งเดิมทีพระเจ้าผู้สร้างสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์ แต่พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูบันทึกไว้ว่าเราไม่เชื่อฟังพระเจ้าผู้สร้างอย่างไร ทำให้เกิด กิเลสขึ้นในตัวเราทุกคน เพลงสดุดีเป็นชุดเพลงศักดิ์สิทธิ์และเพลงสวดที่ชาวฮีบรูโบราณใช้ในการนมัสการ สดุดีบทที่ 14 ประพันธ์โดยกษัตริย์ดาวิดเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตศักราช บันทึกว่าสิ่งต่างๆ ในปัจจุบันมองอย่างไรจากมุมมองของพระเจ้า ด้านล่างนี้คือไทม์ไลน์ที่อธิบายว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใดเมื่อเทียบกับตัวละครสำคัญในพระคัมภีร์ไบเบิล กษัตริย์ดาวิดได้ทำเช่นนั้น พร้อมกับข้อความที่ว่า: 2 พระผู้เป็นเจ้ามองลงมาจากสวรรค์ ดูว่า    มีใครสักคนในบรรดาบุตรของมนุษย์    ที่เข้าใจและแสวงหาพระเจ้า3 ทุกคนหลงผิดไป เขากลายเป็นคนไร้ศีลธรรมกันไปหมด    ไม่มีผู้ใดกระทำความดี    ไม่มีแม้แต่คนเดียว สดุดี 14:2-3 วลี ‘กลายเป็นคนไร้ศีลธรรม’ อธิบายถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เรา ‘กลายเป็น’ การทุจริตหรือหลงผิดจึงอ้างอิงถึง ‘ ภาพลักษณ์ของพระเจ้า ‘  สิ่งนี้บอกว่าความเสื่อมทรามของเราแสดงให้เห็นโดยแยกตัวเป็นอิสระ… Read More »ตอนนี้ที่หลงผิด… เหมือนกับออร์คแห่งมิดเดิลเอิร์ธ