Skip to content
Home » Archives for Ragnar » Page 4

Ragnar

‘พระคริสต์’ ของพระเยซูคริสต์มาจากไหน?

พระพุทธเจ้าโคตมะและพระเยซูคริสต์มักถูกเปรียบเทียบในฐานะผู้ก่อตั้งศาสนาโลกสองศาสนา พวกเขายังคล้ายกันในแง่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดบางประการ หลายคนคิดว่าคำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ เป็นส่วนหนึ่งของชื่อพระพุทธเจ้าโคตมะ อันที่จริงพระนามของพระองค์คือสิทธัตถะโคตมะ คำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ ที่เชื่อมโยงกับพระองค์นั้นเป็นชื่อที่มีความหมายว่า ‘ผู้ตื่นแล้ว’ เปรียบการตรัสรู้ของพระองค์เหมือนการตื่นจากการหลับใหล ในทำนองเดียวกัน ‘พระคริสต์’ ไม่ใช่นามสกุลของพระเยซู (มารดาและบิดาของเขาไม่มีชื่อโจเซฟและแมรี่คริสต์) แต่ ‘พระคริสต์’ เป็นชื่อที่มีความหมายว่า ‘ผู้ถูกเจิม’ ดังนั้น ชายสองคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาของโลกสองศาสนาเท่านั้น แต่พวกท่านทั้งสองยังมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดจนหลายคนคิดว่านี่คือนามของพวกท่านนั่นเอง แต่ในการรับตำแหน่งเหล่านี้ เราเห็นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพระเยซูแห่งนาซาเร็ธและพระเจ้าสิทธัตถะโคตมะ พระเจ้าสิทธัตถะโคตมะได้รับตำแหน่งจากสังฆะ (กลุ่มผู้ติดตาม) หลายศตวรรษหลังจากที่เขามีชีวิตอยู่ เมื่อคณะสงฆ์ของพระองค์ตระหนักในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการบรรลุการตรัสรู้ พวกเขาเรียกพระองค์ว่า ‘พระพุทธเจ้า ‘ อย่างไรก็ตาม ผู้ติดตามพระเยซูไม่ได้ตั้งฉายาให้พระองค์ว่า ‘พระคริสต์’ แล้ว… Read More »‘พระคริสต์’ ของพระเยซูคริสต์มาจากไหน?

อาณาจักรโลกอันยิ่งใหญ่ในอดีต…และอาณาจักรโลกที่สัญญาว่าจะมาถึง

เจงกิสข่าน (ชื่อตอนกำเนิด เทมูจิน Temüjin, 鐵木眞; คริสต์ศักราช 1162 –1227) เป็นผู้ก่อตั้งและ Great Khan (ตำแหน่งข่านที่ใช้เรียกผู้นำสูงสุด)คนแรกของจักรวรรดิมองโกล หลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจงกิสข่าน จักรวรรดิก็กลายเป็นอาณาจักรเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หนึ่งในผู้พิชิตที่สำคัญที่สุดตลอดกาล เขาเป็นนักรณรงค์ทางทหารที่เก่งกาจและไร้ความปรานี กองทัพของเขาพิชิตทั่วเอเชีย ตะวันตกสู่ยุโรป และตะวันออกสู่จีนและเกาหลี กองทัพมองโกลโจมตีญี่ปุ่น และในขณะเดียวกันก็ต่อสู้ทางใต้ลงไปยังเวียดนาม พม่า และไทยอีกด้วย เจงกิสข่านและเรื่องราวการพิชิตของเขามีชื่อเสียงอันน่าสะพรึงกลัวในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นทั่วเอเชีย นักประวัติศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่ามีประมาณ 60 ล้านคนที่เสียชีวิตจากการรณรงค์ทางทหารของเขา อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของเขายังได้เปิดเส้นทางสายไหม กระตุ้นการค้าและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างยุโรป จีน… Read More »อาณาจักรโลกอันยิ่งใหญ่ในอดีต…และอาณาจักรโลกที่สัญญาว่าจะมาถึง

เราได้รับข้อความศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เราอ่านทุกวันนี้ได้อย่างไร

พระคัมภีร์และพระไตรปิฎกหรือตะกร้าสามใบ มีส่วนที่เหมือนกันมาก ทั้งสองเป็นตำราโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งทั้งสองยังถูกเขียนด้วยภาษาที่ไม่ใช้ปกติในปัจจุบัน ดังนั้นหนังสือเหล่านี้จึงจำเป็นที่จะต้องมีการแปล หนังสือพระคัมภีร์เขียนเป็นภาษากรีกและฮีบรู แต่พระไตรปิฎกเดิมเป็นภาษาบาลีและสันสกฤต นอกจากนี้ เนื่องจากมีการเขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้ว จึงต้องใช้ระเบียบวินัยของการวิจารณ์ข้อความเพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อความ ทีนี้เราจะพิจารณาประเด็นเหล่านี้ที่หล่อหลอมทั้งพระคัมภีร์และพระไตรปิฎก (รวมถึงพุทธวจนะ ด้วย ) ข้อความวิจารณ์ Textual Criticism หรือการวิจารย์ตัวบท คือระเบียบวินัยทางวิชาการที่กำหนดว่าข้อความโบราณมีการเปลี่ยนแปลงจากองค์ประกอบดั้งเดิมจนถึงปัจจุบันหรือไม่ เนื่องจากเป็นวินัยทางวิชาการจึงใช้กับงานเขียนโบราณจากภาษาใดก็ได้  ช่วงเวลา แผนผังนี้แสดงตัวอย่างเอกสารสมมุติที่เขียนขึ้นเมื่อ 500 ปีก่อนคริสตศักราช ข้อความเดิมอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นก่อนที่มันจะสลายตัว สูญหาย หรือถูกทำลาย จะต้องทำสำเนาต้นฉบับ (MSS) ของมันเสียก่อน (สำเนาที่ 1) กลุ่มคนมืออาชีพที่เรียกว่าอาลักษณ์ได้ทำการคัดลอก เมื่อหลายปีล่วงไปพวกอาลักษณ์จะทำการคัดลอก (สำเนาที่ 2… Read More »เราได้รับข้อความศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เราอ่านทุกวันนี้ได้อย่างไร

เพลย์บอยผู้ร่ำรวยและโสโครกสอนภูมิปัญญาของมายาได้อย่างไร?

มายามาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า ‘สิ่งที่ไม่ใช่’ ดังนั้นจึงเป็น ‘ภาพลวงตา’ นักปราชญ์และสำนักคิดต่าง ๆ ได้เน้นย้ำภาพลวงตาของมายาในรูปแบบต่าง ๆ พวกเขามักจะเตือนว่าวัตถุทางกายภาพสามารถชักนำจิตวิญญาณของเราให้หลงผิดได้ จึงทำให้เข้าไปพัวพันและกักขังมันไว้ในพันธนาการ จิตวิญญาณของเราปรารถนาที่จะควบคุมและเพลิดเพลินกับสิ่งนานา อย่างไรก็ตาม ในการทำเช่นนี้ เราลงเอยด้วยการรับใช้ตัณหา ความโลภ และความโกรธ บ่อยครั้งที่เราเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า และผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จมลึกลงไปในภาพลวงตาหรือมายา ดังนั้น มายาสามารถทำตัวเหมือนวังวนที่ยิ่งเพิ่มพูน กักขังไว้มากขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่ความสิ้นหวัง มายาส่งผลให้ยอมรับสิ่งชั่วคราวว่ามีค่ายั่งยืน มันมองหาความสุขที่ยั่งยืนในโลกนี้ที่ในความจริงนั้นโลกนี้ไม่สามารถให้ได้ คัมภีร์ไบเบิลภาษาฮีบรูมีวรรณกรรมเกี่ยวกับภูมิปัญญาที่สำรวจภาพลวงตาหรือความฟุ้งเฟ้อนี้ ผู้ประพันธ์บทกวีภูมิปัญญานี้คือโซโลมอน ซึ่งเป็นโอรสของกษัตริย์ดาวิด เขาบันทึกว่าเขาประสบกับมายาและผลกระทบของมันอย่างไรในขณะที่เขาอาศัยอยู่ ‘ภายใต้ดวงตะวัน’ คือดำเนินชีวิตโดยประหนึ่งว่ามีเพียงวัตถุที่มีค่าเท่านั้น มองหาความสุขที่ยั่งยืนเพียงแค่ในโลกกายนี้ภายใต้วิถีแห่งดวงอาทิตย์เท่านั้น ประสบการณ์ของโซโลมอนเกี่ยวกับมายา ‘ภายใต้ดวงตะวัน’ ในหนังสือปัญญาจารย์์ โซโลมอนบรรยายถึงทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อค้นหาความพึงพอใจในชีวิต เขาเขียนว่า:… Read More »เพลย์บอยผู้ร่ำรวยและโสโครกสอนภูมิปัญญาของมายาได้อย่างไร?

เทพพยากรณ์โบราณกล่าวถึงอะไรในวันนี้?

ท่านดาไลลามะยังคงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่สำคัญที่สุดของชาวพุทธในทิเบต ผู้นับถือถือว่าท่านเป็นร่างอวตารของพระอวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ท่านดาไลลามะองค์ที่ 14 และองค์ปัจจุบันคือเทนซิน เกียตโซซึ่งอาศัยเป็นผู้ลี้ภัยในอินเดีย ท่านกลายเป็นหนึ่งในผู้นำทางศาสนาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน ท่านให้ความสำคัญในการสนับสนุนการไม่ใช้ความรุนแรงและค่านิยมสากล จนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1989   ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ ดาไลลามะทำหน้าที่ปรึกษากับนักทำนาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันปีใหม่ของชาวทิเบต “เทพพยากรณ์” หมายถึงเมื่อวิญญาณเข้าสู่ชายหรือหญิง จากนั้นเทพพยากรณ์จะสามารถทำนายเชิงพยากรณ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำนายอนาคต เราทุกคนต้องการมีความสามารถนี้เมื่อเรามองไปยังปีข้างหน้า ดาไลลามะปรึกษาเทพพยากรณ์เนชุงในช่วงโลซาร์หรือช่วงเทศกาลปีใหม่ของทิเบตดาไลลามะยังปรึกษากับเทพพยากรณ์เท็นมะซึ่งเป็นหญิงสาวชาวทิเบตผู้เป็นสื่อกลางสำหรับเทพภูเขาสิบสององค์ หยั่งรู้อนาคต: พลังวิเศษของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การรู้อนาคตนั้นเกินความสามารถของมนุษย์เรา เราทราบดีว่าการทำนายอนาคตถือเป็นจุดเด่นทางด้านจิตวิญญาณ เพราะมนุษย์ไม่มีความสามารถในการมองการณ์ไกลเช่นนี้ สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมแม้แต่ดาไลลามะเองก็ปรึกษาร่างทรงเนชุง คำทำนายนี้อ้างว่าจะมองเห็นอนาคตเมื่อวิญญาณเข้าสิงเขาเท่านั้น และภายในปีที่จะมาถึงเท่านั้น เราสามารถใช้ความสามารถในการพยากรณ์นี้เพื่อแยกข่าวสารที่เป็นเพียงมนุษย์ออกจากข่าวสารที่มาจากวิญญาณ ในบรรดาผู้ที่อ้างว่ามีความสามารถในการคาดการณ์อนาคต ผู้เผยพระวจนะชาวฮีบรูโบราณมีความโดดเด่นด้วยระยะเวลาอันยาวนานที่พวกเขาสามารถมองเห็นภายหน้าอนาคตได้ พวกเขาคาดการณ์ไม่เพียงแค่เพียงปีถัดมาเท่านั้น แต่ยังมองไปข้างหน้าอีกหลายพันปีในอนาคต เทพพยากรณ์เหล่านี้มองข้ามสมัยของเราไปจนถึงจุดจบของประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ โดยพวกเขาอ้างว่าได้รับคำพยากรณ์จากพระเจ้าผู้สร้าง นี่คือเหตุผลที่พวกเขาสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้จากประวัติศาสตร์อันยาวนานไปจนถึงจุดสิ้นสุดของเวลา ดูวิธีที่พระเจ้าผู้สร้างอ้างว่าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะ: 8 เราคือพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นชื่อของเรา    เราจะไม่มอบบารมีของเราให้แก่ผู้ใด    ไม่มอบคำสรรเสริญของเราให้แก่รูปเคารพสลักใดๆ9 ดูเถิด เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นแล้ว    และบัดนี้เราประกาศให้รู้ถึงเรื่องใหม่ๆเราบอกให้พวกเจ้ารู้    ก่อนที่จะเกิดขึ้น” อิสยาห์ 42:8-9 6 พระผู้เป็นเจ้ากษัตริย์แห่งอิสราเอล และผู้ไถ่ของเขา    พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้“เราเป็นเบื้องต้น… Read More »เทพพยากรณ์โบราณกล่าวถึงอะไรในวันนี้?

อะไรคือประวัติศาสตร์ของชาวยิว?

ชาวยิวมีอดีตอันยาวนาน และมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์เอเชียเป็นพิเศษ ลองพิจรนาหนึ่งตัวอย่างคือ คาร์ล มาร์กซ์ ผู้ให้กำเนิดและส่งเสริมลัทธิคอมมิวนิสต์ในฐานะทฤษฎีเศรษฐกิจและการเมืองในยุโรปเป็นชาวยิว ความคิดของเขาแพร่กระจายจากยุโรปไปยังเอเชีย ซึ่งได้เห็นการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหมาในจีน จากนั้นการยึดครองเกาหลีเหนือและเวียดนามของคอมมิวนิสต์ก็แผ่ขยายออกไปจากจีน เขมรแดงที่นำโดยพล พต ได้นำแนวคิดมาร์กซิสต์มาใช้ในกัมพูชาเช่นกัน สิ่งนี้นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ในประเทศนั้นในปี 1970 ทุกคนในเอเชียอาจได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติของคอมมิวนิสต์และความขัดแย้งที่เป็นผลมาจากการปฏิวัติจนถึงทุกวันนี้ ชาวยิวยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเอเชียในอดีต พระสงฆ์กลุ่มแรกใช้ภาษาบาลีและสันสกฤตในการเขียนพระสูตรที่เก่าแก่ที่สุด ภาษาบาลีและสันสกฤตมาจากอักษรพรหมมี ซึ่งนักวิชาการเสนอว่ามาจากชาวยิวในเอเชียเมื่อเกือบ 2,700 ปีที่แล้ว ชาวยิวจึงส่งผลกระทบต่อการก่อตัวของงานเขียนทางพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ชาวยิวมีอิทธิพลต่อเอเชียอย่างที่ชนกลุ่มน้อยอื่นไม่มี ที่นี่เราตรวจสอบประวัติศาสตร์ของชาวยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเอเชีย เราสำรวจว่าเหตุใดชาวยิวจึงมีอิทธิพลอย่างยาวนานและยั่งยืนต่อประวัติศาสตร์เอเชีย มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาวยิวมากกว่าของชาติอื่น เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อสรุปประวัติของพวกเขาด้วยไทม์ไลน์ อับราฮัม: ครอบครัวชาวยิวได้เริ่มต้นขึ้น เส้นเวลาเริ่มต้นด้วยอับราฮัม พระเจ้าผู้สร้างสัญญาว่าพระเจ้าจะอวยพรทุกชาติโดยผ่านพระองค์ จากนั้นพระเจ้าทรงทดสอบเขาด้วยในการเสียสละแบบสัญลักษณ์ของอิสอัคบุตรชายของเขา นี่เป็นสัญญาณที่ชี้ไปที่พระเยซูโดยการทำเครื่องหมายตำแหน่งที่เครื่องบูชาของพระองค์ในอนาคต พระเจ้าจึงตั้งชื่อบุตรของอิสอัคว่าอิสราเอล เส้นเวลายังคงเป็นสีเขียวเมื่อลูกหลานของอิสราเอลเป็นทาสในอียิปต์ ช่วงเวลานี้เริ่มด้วยโยเซฟ บุตรของอิสราเอล (ลำดับวงศ์ตระกูลคือ: อับราฮัม -> อิสอัค -> อิสราเอล(หรือเป็นที่รู้จักว่ายาโคบ)… Read More »อะไรคือประวัติศาสตร์ของชาวยิว?

โชคแห่งเสียงหัวเราะของพระพุทธเจ้า แต่ถูกสาปราวกับเปรต: พรและคำสาปของโมเสสสะท้อนถึงวันนี้อย่างไร

บูได (布袋; 포대; 布袋;  Bố Đại ) เป็นพระชาวจีนที่มักระบุว่ามีความโชคดีและสิริมงคล รูปปั้นและเรื่องราวต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเขาร่าเริงและอ้วนพีเพราะอาหารดีๆ ที่เขากินเข้าไป สิ่งนี้อธิบายชื่อเล่นของเขาว่า “พระหัวเราะ” และ “พระพุทธรูปอ้วน” รูปร่างของเขาปรากฏอยู่ทั่วไปในวัฒนธรรมเอเชียซึ่งแสดงถึงความสมถะและความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนในปัจจุบันหวังจึงที่จะได้รับโชคลาภจากความโชคดีของเขา แต่เปรตนั้นอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับพระหัวเราะ เปรตหรือผีผู้หิวโหยเป็นวิญญาณที่ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส คนเชื่อว่าเปรตเคยทำผิด ทุจริต บีบบังคับ หลอกลวง อิจฉาหรือโลภในชาติที่แล้ว และผลจากกรรมชั่วที่สั่งสมมาทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับความหิวโหยที่ไม่รู้จักพอกับสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ นอกจากนี้นิมิตที่เป็นกังวลยังส่งผลต่อเปรตวิสัย พวกเปรตไม่สามารถมองเห็นด้วยตามนุษย์ บางคนเชื่อว่ามนุษย์ในสภาพจิตใจที่ปรวนแปรสามารถมองเห็นการมีอยู่ของเปรตได้ พวกเขาอธิบายว่าพวกเปรตคล้ายกับมนุษย์ แต่มีผิวหนังที่เหมือนมัมมี่ แขนขาเล็ก ท้องป่องใหญ่โต และคอที่ยืดยาวและเล็ก ลักษณะรูปร่างเหล่านี้เปรียบเหมือนกันสถานะของวิญญาณของพวกมัน ท้องขนาดมหึมาบ่งบอกถึงความอยากอาหารอันมหาศาลของพวกมัน แต่คอที่เรียวยาวบ่งบอกถึงความสามารถที่จำกัดในการตอบสนองความอยากอาหารเหล่านั้น ความทุกข์ของเปรตมักจะคล้ายกับการอยู่ในนรก(นารากะ) อันที่จริงแล้ว… Read More »โชคแห่งเสียงหัวเราะของพระพุทธเจ้า แต่ถูกสาปราวกับเปรต: พรและคำสาปของโมเสสสะท้อนถึงวันนี้อย่างไร

ศีลห้าและบัญญัติสิบประการ

ศีลห้าเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานที่ควรเคารพและพึงปฏิบัติสำหรับชาวพุทธ มีไว้เพื่อพัฒนาจิตใจและนิสัย ทำให้ก้าวหน้านำไปสู่การสำนึกรู้คุณ การรักษาศีลห้าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรมเป็นประจำทั้งที่บ้านและที่วัดในท้องถิ่น สังคมถือศีล ๕ ผ่านพิธีกรรมโดยพระสงฆ์เป็นผู้นำในการสมาทานศีล ๕ ท่องตามประเพณีโบราณ  รายการศีลห้า สำหรับชาวพุทธเถรวาท การท่องทั่วไป (จากภาษาบาลี) มีดังนี้ ศีลห้าที่พระพุทธเจ้าประทานให้มีความคล้ายคลึงกับบัญญัติสิบประการที่โมเสสได้รับเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ดังนั้น การเข้าใจว่าคนเรารักษาบัญญัติสิบประการอย่างไรจึงช่วยให้เข้าใจศีลห้ามากขึ้น เราสามารถเข้าใจรหัสโบราณทั้งสองนี้ในบริบทของการระบาดของไวรัสโคโรนาในปัจจุบันซึ่งแพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง โมเสสและบัญญัติสิบประการ พระคัมภีร์ภาษาฮีบรูโบราณเล่าว่าโลกของเราตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน ความตาย และความไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าทรงมีญาณหยั่งรู้อย่างยิ่งในอริยสัจสี่ เนื่องจากแนวโน้มของมนุษย์ที่จะทำบาป พระเจ้าผู้สร้างจึงประทานบัญญัติสิบประการแก่โมเสสไม่นานหลังจากที่พวกเขาหนีออกจากอียิปต์ในเทศกาลปัสกา โมเสสไม่ได้วางแผนที่จะนำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์เพียงเท่านั้น เขาต้องการนำทางพวกเขาไปสู่วิถีชีวิตใหม่ด้วย เขาตั้งใจจะสร้างสังคมที่ยุติธรรมและปราศจากการทุจริต ห้าสิบวันหลังจากเทศกาลปัสกาที่ปลดปล่อยชาวอิสราเอล โมเสสพาพวกเขาไปที่ภูเขาซีนาย ซึ่งพวกเขาได้รับธรรมบัญญัติ พระเจ้ายังประทานกฎนี้ผ่านโมเสสเพื่อเปิดเผยปัญหาเบื้องหลังในยุคของเราอีกด้วย โมเสสได้รับคำสั่งอะไร? กฎหมายฉบับสมบูรณ์ของคำสั่ง 613 สำหรับปุโรหิตและผู้นำนั้นค่อนข้างยาว ดังนั้นโมเสสจึงได้รับคำสั่งเฉพาะเจาะจงทางศีลธรรมบนแผ่นหินที่เรียกว่าบัญญัติสิบประการ (หรือ เทวโองการสิบประการ ) ธรรมทั้งสิบประการนี้เป็นบทสรุปของธรรมบัญญัติ เช่นเดียวกับศีล ๕ บัญญัติหน้าที่ทางศีลธรรมสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่พระสงฆ์ พระเจ้าใช้มันในวันนี้เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อโน้มน้าวให้เรากลับใจจากความชั่วร้ายทั่วไป… Read More »ศีลห้าและบัญญัติสิบประการ

ปริศนาของเทศกาลพระจันทร์เต็มดวง

เทศกาลโคมไฟ (元宵節, 元宵节, Yuánxiāo jié ) หรือเทศกาล Shangyuan (上元節, 上元节, Shàngyuán jié ) ได้รวมอยู่ในการเฉลิมฉลองวันตรุษจีน เทศกาลโคมไฟนี้มีการเฉลิมฉลองในวันที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกในช่วงปีใหม่ตามปฏิทินจีนแบบดั้งเดิม ปฏิทินจีนและปฏิทินเอเชียอื่นๆ รวมเดือนทางจันทรคติและปีสุริยคติเข้าด้วยกันเป็นปฏิทินจันทรคติ ดวงจันทร์หมุนรอบโลก 12 รอบ ใช้เวลา 354 วัน ดังนั้นปฏิทินจันทรคติจึงเพิ่มเดือนอธิกสุรทินให้เพิ่มเป็นปีที่พิเศษมามากกว่า 19 ปี ดังนั้นเดือนทางจันทรคติและปีสุริยคติจะผสานกันอีกครั้งในช่วงเวลานี้ จุดสำคัญของเทศกาลโคมไฟคือการถือโคมกระดาษออกไปในยามค่ำคืนและไขปริศนาบนโคมไฟนั้น ซึ่งโคมไฟเหล่านี้จะมีข้อความแห่งความโชคดี การได้พบกันใหม่ของครอบครัว การเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ความเจริญรุ่งเรือง และความรัก  ที่มาของเทศกาลตรุษโบราณ ในตำนานต่างๆ ได้อธิบายถึงที่มาของเทศกาลโคมไฟ บ้างก็ว่าจักรพรรดิหยกโกรธที่นกตัวโปรดของพระองค์โดนฆ่าเลยมีประสงค์ที่จะทำลายผู้คนด้วยไฟ ประชาชนที่อยู่ภายใต้การตัดสินคดีของจักรพรรดิหยกจึงตัดสินใจที่จะจุดโคมแดง… Read More »ปริศนาของเทศกาลพระจันทร์เต็มดวง

การเสียสละทำให้เกิดภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทุกคน

ภูเขากำเนิดสถานที่ในอุดมคติสำหรับเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่เป็นจุดหมายปลายทางของการแสวงบุญหรือวัด ในชีวิตประจำวันทั่วไปภูเขาคือความห่างไกลและความสูงของภูเขาทำให้ผู้ที่นับถือศรัทธารู้สึกเหมือนอยู่ใกล้สวรรค์ ดังนั้นเกือบทุกประเทศจึงสร้างศูนย์กลางประจำชาติและศาสนาของตนไว้บนภูเขา ลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้: ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเอเชีย บูร์คันคัลดุน (Бурхан Халдун) ภูเขาบูร์คันคัลดุลเป็นที่ฝังศพของเจงกิสข่าน ผู้ซึ่งประกาศว่าภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของมองโกเลีย เจงกิสข่านบูชาภูเขาบูร์คันคัลดุนเป็นประจำ จึงทำให้ทุกวันนี้ชาวมองโกเลียเดินทางไปแสวงบุญเป็นประจำที่เทวาลัย แด่หลักอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามแห่ง ตามเส้นทางที่กำหนดรอบๆของภูเขาบูร์คันคัลดุน ดังนั้นเขาลูกนี้จึงเป็นตัวแทนของ “มรดกและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชนเผ่าเร่ร่อนในมองโกเลีย” ( wiki ) ยอดเขาอดัม ชาวพุทธสิงหลในศรีลังกาอ้างถึงยอดเขาอดัมว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพวกเขา ยอดเขามีรูปแบบตามธรรมชาติที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาท (ศรีปาทะ หรือ ශ්‍රී පාද) ดังนั้น ผู้แสวงบุญจึงเดินทางจาริกแสวงบุญขึ้นภูเขา ตามเส้นทางที่ยากลำบากมากมายขึ้นบันไดนับพันขั้น ( wiki ) พนมกุเลน ( ភ្នំគូលែន ) ทั้งชาวฮินดูและชาวพุทธในกัมพูชาเดินทางไปแสวงบุญที่พนมกุเลนโดยถือเป็นแหล่งกำเนิดของอาณาจักรเขมรโบราณ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์เขมรได้ประกาศสิทธิ์ในการปกครอง ( เทวราชา ) ที่พนมกุเลน บริเวณใกล้เคียงคือปราสาทธม… Read More »การเสียสละทำให้เกิดภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทุกคน